เตรียมตัวปีหน้า Windows sevenจะมาแทนที่Windows Vista
Windows Vista ยังคงเป็นระบบปฏิบัติการที่ล้ำสมัยอยู่สำหรับผู้ใช้ในตอนนี้ครับ ซึ่งหน้าตา และภายในของมันนั้นได้รับการปรับปรุงและพัฒนาต่อยอดจาก XP มาได้อย่างดี รวมถึง Aero เองก็เป็นระบบการใช้ที่ทำได้ดี และยอดเยี่ยมกว่า Windows ทุกเวอร์ชั่นที่ผ่านมาเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ดี มีหลายอย่างที่ระบบปฏิบัติการตัวนี้ยังคงขาดไป อย่างเช่นการสนับสนุนฮาร์ดแวร์ที่น้อยมากสำหรับ 64 bit Home Version และการแจ้งเตือนและให้ตอบคำถามที่มากและจุกจิกจนหลายๆคนรำคาญ
ไมโครซอฟท์ก็ได้นำเอาข้อดีและข้อเสียหลายๆอย่างเหล่านี้มาปั่น OS ตัวใหม่ โดยอ้างอิงจากคำกล่าวจากผู้บริโภคนั่นเอง ที่มีชื่อเรียกในตอนนี้ว่า Windows 7 และไม่ต้องคาดหวังอะไรใหม่ๆโดยเฉพาะตัวคอร์ระบบในตอนนี้ เพราะว่า 7 จะถูกพัฒนาต่อยอดจาก Vista แน่นอน โดยคาดการณ์ไว้นั้น เวลา 3 ปี นับจากนี้ เราจะได้เห็นเจ้า OS ตัวนี้กันว่าจะเป็นอย่างไร ซึ่งหลายๆคนอาจจะได้เห็น M1 กันไปแล้วเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมานี้
ไมโครซอฟท์อาจจะเตรียมตัวปล่อย M2 ให้กับนักพัฒนาได้ในราวเดือน มีนาคม และเมษายนที่จะถึงนี้ แต่ก็ยังไม่ได้ให้ความคิดเห็นอะไรเกี่ยวกับความคืบหน้าในการพัฒนา
ไมโครซอฟท์ยังฝากทิ้งท้ายมาหน่อยสำหรับการพัฒนา Windows 7 ว่าจะเป็นการพัฒนาที่ก้าวล้ำในเรื่องของ Voice Recognition และระบบ Natural Interface แบบใหม่ ตัวระบบปฏิบัติการจะมีรูปร่างหน้าตาคล้ายกันกับ Windows Live Wave 3
เป็นวินโดวส์ตัวใหม่ครับ เปลี่ยนชื่อจาก windows veinna
ไมโครซอฟท์มีแผนการที่จะออกวินโดวส์เวอร์ชั่นต่ อจาก Vista โดยมีชื่อรหัสว่า Windows 7
โดย Windows 7 จะเป็น Windows เวอร์ชั่นต่อไปของไมโครซอฟท์ ซึ่งในขณะนี้ทางไมโครซอฟท์ได้ให้รายละเอียดบางอย่างก ับพันธมิตร และคู่ค้าแล้ว ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีนะครับว่า Windows Vista นั้นเป็น Windows เวอร์ชั่นที่ทิ้งช่วงการออกมากว่า 5 ปี และเช่นเดียวกับ Vista ในส่วนของ Windows 7 นั้นจะมีเวอร์ชั่น 32 และ 64 บิต และมีทั้งเวอร์ชั่นสำหรับคอนซูมเมอร์ และธุรกิจ
Windows 7 นั้นเราทราบกันดีว่ามาจากรหัสพัฒนาเดิมว่า Vienna ซึ่งทางไมโครซอฟท์ได้เปลี่ยนไปใช้รหัส 7 ในการเรียกชื่อแทน สำหรับวินโดวส์เวอร์ชั่นต่อไปของตนเอง รายละเอียดนั้นยังคงไม่ทราบแน่นอน และยังไม่มีเล็ดรอดออกมามากนัก ไมโครซอฟท์เผยว่าจะประกาศออกมาให้เราได้ทราบกันในไม่ นานนี้แน่นอน
สำหรับระยะเวลาในการพัฒนานั้นไมโครซอฟท์คาดว่าจะใช้เ วลา 3 ปี ต่อจากนี้
Credit : Overclockzone.com
